ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า อากาศเมืองไทยร้อนขนาดนี้ แอร์จึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นมากสำหรับแต่ละบ้านดังนั้นวิธีการเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องนั้น ถือว่าเป็นสิ่งแรกที่ควรรู้เพื่อที่เราจะได้เลือกแอร์ได้อย่างถูกต้อง เพราะ BTU ของแอร์แต่ละตัวนั้น จะมีผลต่อการประหยัดพลังงาน และประหยัดเงินในกระเป๋าได้

     BTU ย่อมาจาก British thermal unit คือ หน่วยที่ใช้วัดปริมาณความร้อนหน่วยหนึ่ง นิยมใช้กันมากในระบบของเครื่องปรับอากาศ ซึ่ง 1 ตัน ความเย็นจะเท่ากับ 12000 BTU/ชั่วโมง

     - แอร์ที่มี BTU สูงเกินไป ทำให้ทำความเย็นได้รวดเร็วจริง แต่จะส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย อาจเกิดความชื้นภายในห้องสูง และทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วย

     - แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไป ทำให้ห้องเย็นช้า หรืออุณหภูมิความเย็นไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลาดเวลา และหนักเกินไป ทำให้อายุการใช้งานลดลงและเปลืองพลังงานอีกด้วย

     ฉะนั้น BTU นั้นสำคัญมากๆ วันนี้เราจึงนำวิธีคิดหา BTU ง่ายๆ มาฝากกัน (สำหรับห้องที่เพดานสูงปกติ 2.50 – 2.70 เมตร) **เป็นการคำนวณ BTU ห้องมาตรฐาน ทั้งนี้ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆเพิ่มเติม

     BTU = [กว้าง (เมตร) x ยาว (เมตร)] x ตัวแปร

     ตัวแปรแบ่งได้ 2 ประเภท

     - 600-700 = ห้องที่มีความร้อนน้อยใช้เฉพาะกลางคืน

     - 700-800 = ห้องที่มีความร้อนสูงใช้มากตอนกลางวัน

     ตัวอย่างการคำนวณ ห้องนอนกว้าง 4 เมตร,ยาว 4 เมตร

     BTU [4 เมตร x 4 เมตร] x 700

     = 16 ตารางเมตร x 700

     = 11,200 ควรเลือกใช้แอร์ที่มีขนาด 12,000 BTU 

     โดยก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแอร์สักเครื่องนั้นต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ควรมีการเปรียบเทียบ รุ่น  ยี่ห้อ คุณสมบัติพิเศษ และ เทคโนโลยี ต่างๆ  ด้วยเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดนะคะ